วันพุธที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

นายยกมาเลยเซีย



ประเทศมาเลเซียจัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2556 หลังนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2556 โดยมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกสภานิติบัญญัติรัฐ 12 จาก 13 รัฐ (ยกเว้นรัฐซาราวัก) หลังธรรมเนียมปฏิบัติที่เริ่มตั้งแต่ปี 2547 ให้จัดการเลือกตั้งเหล่านี้พร้อมกัน
พรรครัฐบาล แนวร่วมแห่งชาติ (BN) ที่ครอบงำโดยพรรคอัมโนของนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซะก์ ได้รับเสียงข้างมาก แม้พรรคปากาตัน รักเกียตที่ตั้งโดยพรรคการเมืองฝ่ายค้านสามพรรค จะได้รับเสียงจากประชาชนมากที่สุด ทั้งนี้ เพราะที่นั่งมิได้จัดสรรตามสัดส่วน แต่ในระดับเขตเลือกตั้ง ตามระบบแบ่งเขตคะแนนสูงสุด (first-past-the-post system) อย่างไรก็ดี พรรคฝ่ายค้านมีที่นั่งในสภาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่พรรครัฐบาลเสียที่นั่งเล็กน้อย
ผลเลือกตั้งมาเลย์ พรรค'นาจิบ' ชนะเลือกตั้ง ได้เก้าอี้เกินครึ่ง
Pic_343069
คณะกรรมการเลือกตั้งมาเลเซียเผย พรรคแนวร่วมรัฐบาลชนะการเลือกตั้งทั่วไป โดยได้เก้าอี้ในสภาทั้งสิ้น 133 ที่นั่ง ขณะที่ฝ่ายค้านไม่ยอมรับผล และโจมตีว่าการเลือกตั้งไม่โปร่งใส...สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 6 พ.ค. ว่า พรรคแนวร่วม 'บาริซาน เนชันแนล' (บีเอ็น) ของมาเลเซีย ซึ่งนำโดยพรรคอัมโนของนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค ชนะการเลือกตั้งทั่วไปที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พ.ค. เอาชนะพรรคฝ่ายค้านของนาย อันวาร์ อิบราฮิม และได้ปกครองประเทศต่อไปอีก 5 ปีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พ.ค. มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ราว 80% ซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งของประเทศ โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งมาเลเซียประกาศผลการเลือกตั้งในวันนี้ (6 พ.ค.) ว่า พรรคบีเอ็นชนะการเลือกตั้ง และได้เก้าอี้ในสภา 133 ที่นั่ง จากทั้งหมด 222 ขณะที่กลุ่ม ปากาตัน รักเกียต (พีอาร์) แนวร่วมฝ่ายค้าน ได้ไปเพียง 89 ที่นั่ง ในเวลาต่อมานายนาจิบ วัย 59 ปี ซึ่งจะได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีปกครองมาเลเซียต่ออีก 5 ปี ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนมาเลเซียยอมรับผลการเลือกตั้งที่ออกมา เพื่อแสดงให้โลกเห็นว่า มาเลเซียเป็นประเทศประชาธิปไตยที่บรรลุนิติภาวะ

นายยกมาเลเซีย


ประเทศมาเลเซียจัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2556 หลังนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2556 โดยมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกสภานิติบัญญัติรัฐ 12 จาก 13 รัฐ (ยกเว้นรัฐซาราวัก) หลังธรรมเนียมปฏิบัติที่เริ่มตั้งแต่ปี 2547 ให้จัดการเลือกตั้งเหล่านี้พร้อมกัน
พรรครัฐบาล แนวร่วมแห่งชาติ (BN) ที่ครอบงำโดยพรรคอัมโนของนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซะก์ ได้รับเสียงข้างมาก แม้พรรคปากาตัน รักเกียตที่ตั้งโดยพรรคการเมืองฝ่ายค้านสามพรรค จะได้รับเสียงจากประชาชนมากที่สุด ทั้งนี้ เพราะที่นั่งมิได้จัดสรรตามสัดส่วน แต่ในระดับเขตเลือกตั้ง ตามระบบแบ่งเขตคะแนนสูงสุด (first-past-the-post system) อย่างไรก็ดี พรรคฝ่ายค้านมีที่นั่งในสภาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่พรรครัฐบาลเสียที่นั่งเล็กน้อย
ผลเลือกตั้งมาเลย์ พรรค'นาจิบ' ชนะเลือกตั้ง ได้เก้าอี้เกินครึ่ง
Pic_343069
คณะกรรมการเลือกตั้งมาเลเซียเผย พรรคแนวร่วมรัฐบาลชนะการเลือกตั้งทั่วไป โดยได้เก้าอี้ในสภาทั้งสิ้น 133 ที่นั่ง ขณะที่ฝ่ายค้านไม่ยอมรับผล และโจมตีว่าการเลือกตั้งไม่โปร่งใส...สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 6 พ.ค. ว่า พรรคแนวร่วม 'บาริซาน เนชันแนล' (บีเอ็น) ของมาเลเซีย ซึ่งนำโดยพรรคอัมโนของนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค ชนะการเลือกตั้งทั่วไปที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พ.ค. เอาชนะพรรคฝ่ายค้านของนาย อันวาร์ อิบราฮิม และได้ปกครองประเทศต่อไปอีก 5 ปีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พ.ค. มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ราว 80% ซึ่งมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งของประเทศ โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งมาเลเซียประกาศผลการเลือกตั้งในวันนี้ (6 พ.ค.) ว่า พรรคบีเอ็นชนะการเลือกตั้ง และได้เก้าอี้ในสภา 133 ที่นั่ง จากทั้งหมด 222 ขณะที่กลุ่ม ปากาตัน รักเกียต (พีอาร์) แนวร่วมฝ่ายค้าน ได้ไปเพียง 89 ที่นั่ง ในเวลาต่อมานายนาจิบ วัย 59 ปี ซึ่งจะได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีปกครองมาเลเซียต่ออีก 5 ปี ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนมาเลเซียยอมรับผลการเลือกตั้งที่ออกมา เพื่อแสดงให้โลกเห็นว่า มาเลเซียเป็นประเทศประชาธิปไตยที่บรรลุนิติภาวะ